ดูหนังซีรี่ย์ ผู้ใดกันแน่กำลังหา ดูหนังผ่านเน็ต ที่ให้แง่คิดของชีวิต ในตอนกักบริเวณจากไวรัสวัววิดอย่างงี้ ต้องตามมาทางนี้ ด้วยเหตุว่าเราจะมาเชิญทุกคนดูหนังที่ให้แง่คิดค้นพบความหมายของชีวิต ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจจะเคยรับรู้คำพูดที่ว่าการดูหนังดีๆสักเรื่อง สามารถทำให้วิญญาณของเราสะอาดขึ้น โดยเหตุนั้น หลายๆครั้งการศึกษาถึงหนทางของการจัดการกับปัญหาชีวิต พวกเราสามารถใช้บทเรียนบางสิ่งที่อยู่ในหนังมาประยุกต์ใช้กับตนเองได้ รวมทั้งในสุดท้าย หากแม้เวลาเพียงสองชั่วโมงกับหนังสักเรื่องบางทีก็อาจจะช่วยเหลืออะไรพวกเรามิได้ก็ตาม แม้กระนั้นอย่างต่ำเราก็มั่นใจว่าขณะของหนังที่มีแง่มุมด้านบวกสักเรื่องนั้นตั้งแต่เริ่มฉายจนถึงตอนจบ จิตใจของพวกเรากำลังถูกปลอบทีละน้อยไปในตัว อย่างไม่ต้องสงสัย
1. The Martian (2015) เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์
ภายใต้แรงกดดันที่เกิดขึ้นในชีวิตของ มาร์ก วัตนีย์ หนึ่งในกลุ่มนักบินอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาตินั้นอาจไม่มีใครหนักหน่วงเท่าอีกแล้ว นั่นเป็นการที่เขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้บนดาวอังคารเพียงผู้เดียว และข้อคิดสำคัญของหนังหัวข้อนี้อยู่ที่ตัวมาร์กบอกกับทุกคนว่า “ณ จุดใดจุดหนึ่ง ดูหนังออนไลน์ฟรี ดูหนังออนไลน์ ทุกสิ่งจะล้มเหลวใส่คุณ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างจะผิดพลาดจนกระทั่งคุณกล่าวว่า นี่แหละ นี่เป็นจุดจบของฉัน ขึ้นกับว่าคุณจะยอมแพ้หรือจะลุกขึ้นสู้ คุณแค่เริ่ม คิดคำนวณ ไขปัญหาแรกให้ได้ และก็หลังจากนั้นจึงค่อยขจัดปัญหาถัดไป และถัดไป เมื่อคุณขจัดปัญหาได้มากเพียงพอ ท้ายที่สุดคุณจะได้กลับไปอยู่บ้าน”
2. Love Letter (1995) ถามรักจากสายลม
ภาพยนตร์ที่ใช้บรรยากาศของฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนักมาเป็นผู้แทนของความเปลี่ยวใจในใจของ ฮิโรโกะ วาตาทุ่งนาเบะ รวมทั้งความเจ็บนั้นก็ถูกเยียวยาโดยสิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งนั้นคือจดหมายตอบกลับที่เธอลองเขียนถึงสามีของตนเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปจากอุบัติเหตุ โดยส่งมาจาก อิตสึกิ ฟูจิอิ หญิงที่ชื่อและชื่อสกุลเช่นเดียวกับชายคู่รักของเธอโดยบังเอิญ เมื่อหญิงสาวทั้งคู่ที่เค้าหน้าเช่นเดียวกันราวกับฝาแฝดได้มาเจอกัน ความลับในอดีตกาลที่ซ่อนอยู่ภายในห้องสมุดของโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ฝ่ายชายเคยเรียนก็ค่อยๆถูกคลี่คลาย ฮิโรโกะก็ได้พบกับการก้าวข้ามความเจ็บของชีวิต ส่วนอิตสึกิ (หญิง) ก็เจอกับความอบอุ่นในชีวิตเหมือนแสงแดดจากฤดูใบไม้ผลิ
3. The PURSUIT of HAPPYNESS (2006) ยิ้มไว้ก่อนบิดาสอนไว้
ภาพยนตร์บอกชีวิตจริงของ คริสโตเฟอร์ การ์ดเนอร์ มหาเศรษฐีพันล้าน ซึ่งก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้จะต้องฝ่าฟันมรสุมเยอะมากที่ต่างมารุมเร้าเขาจนถึงกับต้องไปดำรงชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำสาธารณะกับลูกชายซึ่งเป็นเหมือนความสบายเดียวในชีวิตของเขา ก่อนที่สิ่งนั้นจะเป็นคติสอนใจว่า แม้ว่าจะทุกข์ใจแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าหากพวกเรามองหาความสุขที่แอบหลบอยู่ในมุมมืดได้ สิ่งนั้นจะเป็นราวกับแสงสว่างดวงจันทร์กลมโตที่ทำให้คุณอบอุ่นในค่ำคืนอันมืดสนิทอย่างสิ้นสงสัย
4. Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004) ลบคุณ…ให้ไม่ลืมเลือน
หากเราลืมความเจ็บได้ น่าจะดีไม่น้อย แม้กระนั้นในชีวิตจริงไม่มีผู้ใดลืมได้จริง ต่อให้ โจเอล บาริช ชายที่ลบความจำที่มีร่วมกันกับแฟนสาวคนเก่าที่เขาเคยรัก ทว่าเมื่อเขารู้ตัวอีกที ก็พบว่าความทรงจำนั้น ทำให้เขาได้ทำความเข้าใจถึงความหมายของชีวิตแต่งงาน รวมทั้งความเจ็บปวดไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความเกี่ยวข้อง แถมยังสามารถทำให้ทั้งคู่แก้ไขกันและกัน แล้วก็เติบโตในความเกี่ยวพันต่อไปได้
5. 50/50 (2011) ฟิฟตี้ ฟิฟตี้ ไม่ตายก็รอดวะ
ภาพยนตร์ขึ้นหิ้งสายดราม่าน้ำตาซึม ที่บอกเล่าเรื่องราวของอดัม เด็กหนุ่มผู้ใช้ชีวิตหายใจทิ้งไปวันๆเนี่องจากเขาเป็นโรคมะเร็งจึงไม่มีซึ่งแรงกระตุ้นใดๆก็ตามสำหรับเพื่อการมีชีวิตต่อ ทำให้ไคล์ คู่หูคู่กาย เริ่มเชิญเขาไปทำอะไรบันเทิงใจๆบ้าบิ่นสารพัน ก่อนที่จะนั่นจะกลายเป็นข้อคิดสำคัญว่า สุดท้ายแล้วมนุษย์เราเกิดมาครั้งหนึ่งในชีวิตจะมานั่งเสียใจไปเพราะอะไร การออกไปดำรงชีวิตให้สนุกเต็มที่ตามใจฉัน คงจะเป็นคำว่าชีวิตได้ดีกว่าการนั่งถอนใจรอความตายอย่างแน่นอน
6. The Secret Life of Walter Mitty (2013) ชีวิตพิศวงของ วอลเตอร์ ไม่ตตี้
เพราะว่าบางครั้งคุณอาจจะไม่สบายใจอยู่ แค่คุณอาจจะยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง ภาพยนตร์หัวข้อนี้จึงเป็นตัวอย่างของความทุกข์ใจที่ไม่มีเสียงซึ่งแสดงออกมาได้เป็นอย่างดี และก็นี่คือเรื่องราวของ วอลเตอร์ มิตตี้ หนุ่มพนักงานสถานที่ทำงานผู้ใช้ชีวิตไปวันๆก่อนที่จะเขาจะมีโอกาสได้เดินทางไปยังดินแดนอันเหน็บหนาว เหงาหงอย และเงียบสงัด จนกระทั่งเมื่อเขากลับมายืนที่เดิม ก็พบว่าตามที่เป็นจริงแล้วสิ่งที่เขาเคยมีความรู้สึกว่าพึงพอใจ กลับกลายความทุกข์ที่เขาก้มตัวยอมรับได้แล้วต่างหาก
7. The Notebook (2004) รักคุณหมดใจ ขีดไว้ให้โลกจารึก
เรื่องราวของสองวัยรุ่น โนอาห์รวมทั้งอัลลี ที่ได้หลงเสน่ห์กันอย่างหมดหัวใจ แต่จำต้องถูกอกถูกใจแบ่งเรื่องชนชั้นมาเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความรัก จนทำให้ทั้งสองจะต้องแยกจากกัน ก่อนที่จะต่อมาทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกรอบ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้บอกให้พวกเราเข้าใจว่า ในที่สุดแล้วความรักในแบบที่ไม่หวังผลทดแทน เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความทุกข์ที่กำกวม ซึ่งผู้คนจำนวนมากมักเรียกว่า ‘ความหวัง’ (จากความรัก)
8. The Perks of Being a Wallflower (2012) วัยปั่นป่วนหัวใจปึ้ก
นี่อาจเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นที่เรื่องความทุกข์ทรมานสะดุดใจและก็สะดุดตาเราสูงที่สุด เมื่อวันหนึ่ง ชาลี เด็กวัยรุ่นประหม่าที่มีปัญหาการเข้าสังคมได้พบกับแซมและก็แพทริก สหายกลุ่มแรกในชีวิตที่รอช่วยเหลือเขา ทำให้ชาลีกลายมาเป็นเด็กที่เบิกบานใจอีกที หนุ่มน้อยทั้งหลายทำให้เรารู้ดีว่า ไม่ว่าใครจะเจอกับปัญหาที่เจ็บแบบไหน ถ้าหากมีใครซักคนรอฟังและก็อยู่ดูแลดวงใจตอนที่ท้อแท้ เป็นหนทางหลักที่ไม่ต้องนั่งแก้ไขปัญหาเพียงลำพังให้ทรมาทรกรรมจนกระทั่งเกินรับไหว
9. Begin Again (2013) เพราะรัก คือเพลงรัก
หนังเรื่องนี้แสดงถึงภาพของคนวัยหนุ่มสาวในช่วงปัจจุบันที่กำลังเจอกับทางเดินในชีวิตที่ส่องสว่างราวกับแสงสว่างของดวงสาว เพียงแต่ดาวคู่นี้มีดวงหนึ่งที่แสงเบาๆริบรี่ลงเพราะเหตุว่าเรื่องของความเกี่ยวพัน แล้วก็ผู้ชายวัยกลางคนซึ่งไม่แตกต่างกับดาวฤกษ์ที่แสงในตัวนั้นได้ดับลงไปแล้ว เมื่อดวงดาวสองดวงโคจรมาเจอะกันจึงเปลี่ยนเป็นแรงที่เกื้อหนุนจุนเจือกันรวมทั้งช่วยทำให้แสงที่ชีวิตของแต่ละฝ่ายกลับมาแผ่รัศมีได้อีกครั้ง แม้ในหนังจะมีเพลงซึ้งๆต้องใจอย่าง Lost Stars แต่เพลงที่ทำให้พวกเราปล่อยวางในเรื่องของความเกี่ยวข้องได้ก็คือ A Step You Can’t Take Back
10. INSIDE OUT (2015) น่าพิศวงอารมณ์ปั่นป่วน
ศึกษา ยอมรับ เติบโต พวกเรามอบสามคำนี้ให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันหัวข้อนี้ ถึงแม้ว่าเบื้องต้นจะดูเหมาะสมกับเด็กๆในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรู้ทันรวมทั้งจัดการกับอารมณ์ตนเอง แม้กระนั้นสำหรับคนแก่ที่ผ่านร้อนหนาวของชีวิตมาก่อน ไม่ใช่แค่เข้าใจ แต่สามารถปลอบประโลมใจในวันที่บางอารมณ์ซึมเซา หรือปล่อยวางในบางอารมณ์ที่กำลังเดือดวุ่นวายได้ ภาพยนตร์หัวข้อนี้ไม่ได้สอน แต่ว่าดึงและก็คาดคั้นประสบการณ์ร่วม ก่อนที่จะสะท้อนกลับมาสู่จิตใจ ให้ทำหน้าที่คัดกรองและแปลความอีกรอบ
11. Anomalisa (2016) ‘บุคคลอื่น’ ที่แตกต่างกันแบบเดียวกัน
มนุษย์เป็นอย่างไร ความเจ็บคืออะไร การมีชีวิตเป็นยังไง และก็เวลาพวกเรามีจำกัด นั่นคือสิ่งที่พวกเราลืม ประโยคต้นๆจากแบบอย่างภาพยนตร์แอนิเมชันหัวข้อนี้ที่เชื้อเชิญให้เราติดตามผู้แสดงนำอย่าง ไมเคิล สโตน ที่เจอกับวิกฤตกลางคนไปจนถึงจบ เพศชายที่พยายามดิ้นรนแสวงหาความสบายภายใต้หน้ากาก พวกเราตามติดว่าท้ายสุดแล้วเขาจะเจอกับความสำราญที่เรียกว่าอะไร ความรัก การงาน หรือครอบครัว พวกเราไม่บอก แต่ว่าแค่รู้ดีว่าการไม่หลอกตัวเองและยอมรับให้ได้อาจเป็นยารักษาจิตใจที่ยอดเยี่ยมแล้ว